วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

1 ความคิดเห็น

อ่านละคร นางร้ายสายลับ ตอนที่ 11 วันที่ 24 ส.ค. 56

อ่านละคร นางร้ายสายลับ ตอนที่ 11 วันที่ 24 ส.ค. 56

ทีมเดอะซันมาที่บ้านนฤเบศ ทุกคนทำงานกันอย่างเร่งรีบ ปรีติคลิกโชว์แผนภูมิกราฟหน้าจอคอมฯ รายงานว่า

“แผนภูมิกราฟอันนี้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่เราได้มาจากโน้ตบุ๊กของริชาร์ ดครับ เสียดายที่คุณโซ่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลมาได้เพียง 40% ไม่งั้นเราคงได้รู้อะไรมากขึ้นกว่านี้แน่”

“จะเห็นได้ว่าแผนภูมิกราฟพวกนี้แสดงยอดปริมาณการผลิตสินค้าบางอย่าง ซึ่งมีข้อมูลตัวเลขตรงกับเอกสารออเดอร์สินค้าของบริษัทเดอะเค ซิตี้ ที่ถูกปรินต์ออกมาอยู่ในมือของทุกคนขณะนี้ด้วยครับ” อัศวินเสริม
“ผมคิดว่าหลักฐานเหล่านี้เหมือนจิ๊กซอว์ตัวเล็กๆ ที่ถ้าเราสามารถเอามาเชื่อมโยงต่อกันได้ ก็จะทำให้มองเห็นความจริงมากขึ้น” นฤเบศชี้ ปรีติคลิกไปที่รูปมงคล อธิบายว่า

“โดยเฉพาะนายมงคลคนนี้ครับสารวัตร เขาคือตัวกลางของบริษัทเดอะเค ซิตี้ ที่ทำหน้าที่ติดต่อธุรกิจกับริชาร์ดโดยตรง”

“และเขาก็คือคนที่จะทำให้เราเชื่อมโยงต่อไปถึงนายกวิน ซึ่งเป็นเจ้านายของเขา” ประเสริฐชี้ สุรีกานต์ค้านทันทีว่า กวินเป็นคนดี เขาไม่มีทางเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่ นฤเบศเลยสรุปว่า

“ตอนนี้ยังไม่มีใครผิดหรือถูก ทุกคนเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ได้ยินแบบนี้แล้วหวังว่าคุณคงสบายใจขึ้นนะคุณสายลับ”

นฤเบศมองสุรีกานต์ที่ทำท่าจะเถียง แต่พอเห็นสายตาเขาเธอก็หยุด เขาจึงหันไปคุยกับที่ประชุมต่อ

“โจทย์สำคัญในตอนนี้ คือเราต้องรู้ให้ได้ว่า พลูโตซ่อนยา CN1 เอาไว้ที่ไหน และมันมีกำหนดการที่จะกระจายยานรกพวกนี้ออกไปเมื่อไหร่ เราจะได้ตามสกัดแผนการชั่วร้ายของมันได้ทัน ผู้กองอัศวิน ช่วงนี้ผมอยากให้คุณจับตาดูความเคลื่อนไหวของสนามกอล์ฟเดอะเค ซิตี้นี้เอาไว้ด้วยนะ ถ้ามีเรื่องอะไรผิดปกติรีบรายงานผมทันที”

อัศวินรับทราบ ปรีติแจ้งเพิ่มเติมว่า ยังมีอีกเรื่อง คือตนลองตรวจสอบระบบฐานข้อมูลขององค์กรเมื่อคืนก่อนพบว่า หมวดองอาจล็อกอินเข้ามาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเซฟเฮาส์ลับของทีมเดอะซัน ทำให้นฤเบศรู้ทันทีว่าองอาจทำงานให้ใคร

“พวกเรากำลังคิดว่าสารวัตรมังกรคือผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือสินค้าที่หลุดผ่านด่านไปได้ เรื่องเซฟเฮาส์ลับที่ถูกตามไปถล่ม หรือแม้แต่เรื่องที่มันส่งคนไปตามล่าสารวัตรกับคุณโซ่ถึงบ้านสวนอย่างกับมีแผนที่อยู่ในมือ” จ่ายมวิเคราะห์

สุรีกานต์ถามปรีติว่ามีรูปของสารวัตรมังกรไหม พอปรีติเปิดให้ดู เธออุทานอย่างตกใจ...

“ใช่จริงๆ ด้วย!! หมอนี่แหละที่โทร.นัดฉันออกไปพบ แล้วขู่เรียกเงิน 20 ล้าน เพื่อแลกกับความลับเรื่องการเป็นสายลับและความปลอดภัยของทุกคน”

หลังจากประชุมเสร็จ สุรีกานต์ถามนฤเบศขณะเดินคุยกันในสวนว่า เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเขาจะทำอย่างไรต่อไป นฤเบศยืนยันว่า ถึงสารวัตรมังกรจะเป็นตำรวจ แต่เมื่อทำผิดก็ต้องเอาผิดกับเขาให้ได้ แต่ตอนนี้ต้องหาหลักฐานมัดตัวเขาให้ได้ก่อน สุรีกานต์เอาใจช่วย นฤเบศขอบคุณกำลังใจจากเธอ แต่เมื่อเธอถามว่า ตนยังต้องอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน เขาบอกว่า จนกว่าจะจับคนร้ายเข้าคุกและปิดคดีได้ ย้ำว่า “เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณ”

ทั้งสองทำท่าจะคุยกันได้ดี แต่พอสุรีกานต์บอกว่าตนลางานมานาน และไม่ได้ติดต่อใครเลย เกรงทุกคนจะเป็นห่วง ก็ถูกนฤเบศประชดว่า โดยเฉพาะกวินใช่ไหม เลยกลายเป็นเรื่องขัดใจกันขึ้นมาอีก นฤเบศเหน็บว่า ดูท่าเธอมั่นใจมากว่ากวินเป็นคนดี

“ถึงหลักฐานที่เรามีอยู่ตอนนี้ จะทำให้คุณกวินเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะมีส่วนพัวพันกับคดีนี้ แต่ถึงยังไงฉันก็มั่นใจว่า คุณกวินไม่มีทางเกี่ยวข้องกับขบวนการของริชาร์ดเด็ดขาด”

แล้วเธอก็อดที่จะเหน็บคืนไม่ได้ว่า เขาเองก็คิดถึงแพรไหมอยู่ใช่ไหม นฤเบศไม่ตอบเดินหนีไปเสียงั้น เธอไม่ยอมดินตามตะโกนอย่างขัดใจ

“เฮ้ยคุณ...ตอบฉันมาก่อนสิ อย่าเดินหนีไปแบบนี้นะ คุณ...คุณ!”

ooooooo

แพรไหมเอาขนมเค้กไปขอบคุณกวิน เขาเก็บไว้ในตู้เย็น เขียนติดไว้ที่กล่องว่า “ห้ามกิน” คืนนี้เขาเปิดตู้เย็นเห็นแล้วยิ้มคิดถึงคนให้

กลับมาห้องนอน กวินออกไปยืนที่ระเบียงโทร.หาแพรไหม ถามว่าดึกแล้วรบกวนหรือเปล่า แพรไหมบอกว่าไม่ เพราะตนกำลังดูดาวอยู่ ชวนกวินดูดาวที่พราวเต็มฟ้า คุยกันอย่างมีอารมณ์ร่วมกันกับความงดงามของดวงดาวบนฟ้าว่า

“คนเรานี่ก็แปลกนะครับ เวลามีความรักก็มักจะชอบดูดาว เวลาเหงา เศร้า ก็ชอบดูดาว ยิ่งเวลาอกหักต้องมานั่งร้องไห้กับดวงดาวทุกที” แพรไหมถามว่าแล้วคืนนี้เขาดูดาวด้วยเหตุผลอะไร กวินตอบขำๆ ว่า “ไม่รู้สิครับ ตอนนี้ความรู้สึกมันชักเริ่มสับสน จนบางครั้งก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่ากำลังรู้สึกยังไงกันแน่”

แพรไหมแอบเขินกับคำพูดที่แฝงนัย เฉไฉถามว่าเขาเจอสุรีกานต์บ้างหรือยัง กวินบอกว่ายังไม่เจอ

เธออาจจะอยากอยู่เงียบๆ เลยไม่ติดต่อกลับมาเลย ถามบ้างว่าแล้วเธอเจอนฤเบศหรือยัง แพรไหมบอกว่ายังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าสองคนนี้หายไปพร้อมๆ กันเลย

“ผมว่าบางที ตอนนี้พวกเขาอาจจะอยู่ด้วยกันก็ได้ครับ” แพรไหมถามทันทีว่าทำไมเขาคิดแบบนั้น “ก็คุณเบศเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณโซ่ คุณเบศก็อาจจะอยู่กับคุณโซ่เพื่อคอยดูแลเธอก็ได้ครับ”

“พี่เบศน่ะเหรอเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณโซ่...” แพรไหมพึมพำงงๆ

ooooooo

วันรุ่งขึ้น แพรไหมทำเครปเค้กเอาไปที่บ้านนฤเบศ ป้ามลดีใจเมื่อเห็นรถของแพรไหมมาจอดหน้าบ้าน นฤเบศรีบดึงป้ามลไปกำชับแกมขอร้องให้ช่วยปิดเรื่องสุรีกานต์อยู่ที่นี่และให้สุรีกานต์หลบไปอยู่ในห้องเสีย

ทั้งนฤเบศและป้ามลต้อนรับแพรไหมด้วยความยินดี นฤเบศขอโทษเธอที่ไม่ได้ไปให้กำลังใจในวันแข่งทำเค้ก ส่วนป้ามลนอกจากทำนํ้าตะไคร้มาให้ดื่มแล้วยังชวนทานข้าวกลางวันด้วยกัน บอกว่าจะทำของโปรดให้ทาน

ระหว่างแพรไหมกับนฤเบศทานข้าวกลางวันกันนั่นเอง สุรีกานต์มาแอบดูที่มุมใกล้ห้องครัว เห็นทั้งสองคุยกันอย่างสนิทสนมสนุกสนานก็ใจร้อนวูบวาบ ป้ามลมาเจอดุเบาๆ ว่า “คุณหนูบอกให้หลบอยู่แต่ในห้องไม่ใช่เหรอคะ”

“รู้แล้วน่า...ก็แค่จะมาแอบดู...” พอถูกป้ามลดักคอว่าอย่าบอกนะว่าหึงคุณหนู เธอเลยแกล้งผสมโรงทำเสียงอ่อยรับว่า “มันก็ต้องมีกันบ้างไม่ใช่เหรอคะป้า โซ่กับคุณ สารวัตรเราเป็นแฟนกัน แต่โซ่กลับต้องมาเห็นเขาอี๋อ๋ออยู่กับผู้หญิงอื่นแบบนี้ เป็นใครจะไม่หึงบ้างล่ะคะ”

นางร้ายมืออาชีพเล่นละครเสียจนป้ามลเห็นใจ สงสาร

ทันใดนั้น มีแมลงสาบไต่มาบนหลังเท้าสุรีกานต์ เธอตกใจร้องกรี๊ด แพรไหมได้ยินถามนฤเบศว่าเสียงใคร เขาบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน จึงลุกไปดูกัน ป้ามลรีบบอกให้สุรีกานต์ซ่อนตัวหลังประตู พอทั้งสองเดินมาก็บอกว่าเมื่อกี๊เสียงตนร้องเอง

แต่พอนฤเบศชวนแพรไหมกลับไปทานข้าวต่อ แพรไหมเหลือบเห็นปลายเท้าสุรีกานต์ที่ใต้ประตู ซํ้ายังเห็นเงาเธอในกระจก แม้จะเจ็บจี๊ดขึ้นมาแต่เธอก็รักษากิริยา ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แต่ไม่อาจทนทานอาหารต่อได้ จึงขอตัวกลับบอกว่าอิ่มแล้ว

“ขอบคุณมากนะคะพี่เบศ สำหรับความห่วงใยที่มีให้ไหมเสมอ”

“ก็เราเป็นน้องสาวพี่นี่นา” นฤเบศยิ้มอย่างเอ็นดู แต่ทำให้แพรไหมหน้าเจื่อน ขับรถกลับไปทั้งนํ้าตา...

คำว่า “น้องสาว” ของนฤเบศบาดลึกในความรู้สึกของเธอ

เมื่อแพรไหมกลับไปแล้ว นฤเบศจึงมาถามป้ามลว่าเมื่อครู่นี้เป็นเสียงร้องของป้าจริงหรือ ป้ามลทำ หน้าตายยืนยันว่าใช่ สุรีกานต์สงสารป้ามลเลยรับว่าเป็นเสียงตนไม่ใช่ป้า เลยถูกนฤเบศดุว่าเธอขัดคำสั่งตน ป้ามลรีบหย่าศึกขอร้องอย่าทะเลาะกันเลย บอกนฤเบศว่า

“ที่คุณสุรีกานต์ทำไป ก็เพราะหึงคุณหนูเท่านั้นเอง”

“หึงเหรอ?” นฤเบศอึ้ง สุรีกานต์ทำหน้าอยากจะร้องไห้ ป้ามลพาซื่อถามว่า...

“ก็เมื่อกี๊คุณบอกเองไม่ใช่เหรอคะว่าหึงคุณหนูกับคุณไหม หรือว่าคุณโกหกป้า”

“ในที่สุด ความจริงก็เปิดเผยออกมาจนได้” นฤเบศพูดยิ้มๆ แล้วเดินออกไป

สุรีกานต์ฮึดฮัดขัดใจทั้งโกรธทั้งอาย แต่พอป้ามลจะลุกออกไป ก็เรียกไว้

“เดี๋ยวค่ะป้า...ขอบคุณนะคะที่ออกรับแทนโซ่ ตอนแรกนึกว่าป้าไม่ชอบโซ่ซะอีก”

“คุณคิดถูกค่ะ แต่ตอนนี้ป้าถือคติ คุณหนูรักใครป้าก็ต้องรักด้วย” พูดแล้วป้ามลเดินออกไปอีกคน

ถึงแม้ป้ามลจะพูดเหมือนต้องชอบเธออย่างเสีย ไม่ได้ แต่สุรีกานต์ก็เผลอยิ้มออกมากับเรื่องที่กลายเป็นแบบนี้...

ooooooo

เพราะใกล้เวลาที่แก้วดารานัดกับริชาร์ดแล้ว เธอจึงเข้าฉากเล่นละครกับเนธานอย่างไร้อารมณ์ จนอายอดสั่งคัท แก้วดาราขอโทษ จะพยายามอีกครั้ง

แต่แล้วจู่ๆ เธอก็เวียนหัวจนโลกหมุนติ้วขึ้นมาอย่างกะทันหัน อายอดต้องสั่งพักกองให้คนพาเธอส่ง โรงพยาบาล เกี๊ยวกุ้งรีบไปเก็บของให้ เนธานแถเข้าไป

พูดเย้ยว่า

“คุณนี่เล่นละครได้เก่งทั้งหน้าฉากหลังฉากเลยนะ” แก้วดาราชะงักขอบคุณประชดที่ชม แล้วขอตัวไปพักผ่อน

“จะรีบไปพักผ่อน หรือว่าจะรีบไปนอนกับใครกันแน่”

แก้วดาราหันขวับพูดอย่างพยายามข่มอารมณ์ “แก้วจะไปทำอะไรกับใครมันเรื่องส่วนตัวของแก้ว ยังไงแก้วก็ต้องขอบคุณคุณด้วยนะคะ ที่ช่วยให้ละครของแก้วสมจริงขึ้นเยอะ” พูดแล้วเดินเชิดไปเลย

เนธานมองตามแก้วดาราไปอย่างหงุดหงิด แล้วเข้าไปนั่งแก้เซ็งในห้องแต่งตัว ได้ยินวุ้นกรอบกับพายไก่คุยกันถึงภาพหลุดของพระเอกชายรักชายก็ตกใจร้อนตัว รีบนัดอุษณะมาพบที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เคลียร์กันเรื่องเมมโมรี่การ์ดที่หายไป เนธานยืนยันว่าตนไม่ได้ขโมย อุษณะถามว่าไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร

“ผมคิดว่าตอนนี้เมมโมรี่การ์ดอยู่ที่โซ่” ยอมรับว่า “ผมบอกนิลให้ไปขโมยรูปพวกนั้นที่บ้านคุณเองแหละ แต่นิลกลับใช้ให้โซ่จัดการเรื่องนี้แทน”

“โธ่เอ๊ย! บ้าชิบ!!” อุษณะแทบจะบ้า

“ถ้าใครก็ตามที่เปิดเผยเรื่องนี้ออกมา มันไม่ใช่แค่ผมแน่ๆ ที่จะเดือดร้อน แต่ซุปเปอร์สตาร์อย่างคุณก็จะพังไปด้วยเหมือนกัน แล้วอีกอย่าง นอกจากเรื่องรูปพวกนั้นแล้ว คุณลองนึกดูสิว่า ในกระเป๋ากล้องใบนั้นยังมีอะไรซุกซ่อนอยู่อีกบ้าง”

เนธานอึ้งเมื่อรู้ว่าในกระเป๋ากล้องใบนั้นยังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ พูดขู่ๆ ว่าอุษณะคงไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูตำรวจหรอกจริงไหม อุษณะเสนอว่าให้เนธานหาทางไปเอาเมมโมรี่การ์ดกลับคืนมาให้ได้ เนธานยอมรับว่าเคยลองแล้วแต่ไม่สำเร็จ แล้วช่วงนี้สุรีกานต์ก็ลางานไม่มากองเลย

ส่วนความสัมพันธ์ที่เคยมีกับพลอยนิลก็เลิกกันแล้ว ตนคงไปสืบเรื่องนี้จากพลอยนิลไม่ได้

“เลิกกันได้ ก็คืนดีกันได้ ถึงพลอยนิลจะไม่รู้ว่าตอนนี้โซ่อยู่ที่ไหน แต่ฉันรู้ว่ายัยนั่นมีกุญแจสำรองคอนโดฯของโซ่แน่ๆ” อุษณะหว่านล้อม ทำให้เนธานนิ่งคิดพึมพำ ...กุญแจสำรองหรือ??

หลังจากนั้น เนธานก็เริ่มตามง้อพลอยนิล เมื่อเธอทำท่าไม่ไยดีและเดินหนี เขาก็ตะโกนตามหลังไปอย่างมุ่งมั่น

“ยังไงผมก็จะรอ ผมจะรอจนกว่านิลจะเห็นใจผม”

อุษณะร้อนใจบอกเนธานว่า “ถ้าอยากได้ของที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา บางทีเราก็อาจจะต้องใช้วิธีแบบเดียวกันก็ได้ จริงไหม”

นี่เอง ทำให้เนธานต้องฝืนใจกลับไปง้อพลอยนิล และในที่สุดพลอยนิลก็ใจอ่อนให้โอกาสเขาอีกตามเคย

ooooooo

แก้วดาราไปหาริชาร์ดตามนัดที่ร้านอาหารในโรงแรมหรู เขาถามว่าติดต่อสุรีกานต์ได้หรือยัง แก้วดาราทำเป็นอ้อน น้อยใจว่ามาถึงก็ถามเรื่องงานเลย แต่ก็บอกเขาว่า

“ตอนนี้พี่โซ่ยังลางานเหมือนเดิม แถมไม่ได้ติดต่อใครด้วย ทำไมคุณถึงอยากเจอพี่โซ่นักล่ะคะ”

ริชาร์ดบอกว่า ตนมีเรื่องอยากจะคุยกับสุรีกานต์ ถามว่าจะให้เธอช่วยตามหาตัวให้หน่อยได้ไหม รับรองว่าถ้าเธอทำสำเร็จ ตนยินดีจะตอบแทนน้ำใจเต็มที่ แก้วดาราทำทีว่าตนไม่ได้สนใจเรื่องค่าตอบแทน แต่พอ

ริชาร์ดหยิบเช็คเงินสดห้าแสนให้ก็รับไปทันที

“นี่เป็นค่าใช้จ่ายของคุณในการช่วยตามหาตัวสุรีกานต์ต่างหาก แล้วถ้าคุณช่วยผมได้สำเร็จละก็ ผมจะตอบแทนคุณมากกว่านี้อีก”

แก้วดารามองเช็คในมือยิ้มอย่างพอใจ

ooooooo

บริษัทของกวินจะจัดฉลองครบรอบ 40 ปี กวินติดต่อให้แพรไหมทำเค้กวันเกิดและขนมจัดเลี้ยงในงาน

เวลาเดียวกัน ทีมเดอะซันได้ข่าวนี้ก็ประชุมเตรียมงานกันอย่างเคร่งเครียดที่ห้องทำงานบ้านนฤเบศนั่นเอง

ที่ประชุมหารือกันว่า งานนี้นอกจากพลูโตจะไปแล้วยังมีแขกหลายคนที่เคยไปร่วมงานสัมมนาของ

ริชาร์ดที่กระบี่ก็จะไปด้วย การเตรียมงานจึงต้องรัดกุมมากๆ คาดกันว่าริชาร์ดจะอาศัยงานนี้ส่งยากัน สุรีกานต์ถามอย่างไม่พอใจนักว่า คิดว่ากวินจะใช้งานนี้บังหน้าเพื่อช่วยให้พลูโตกระจายยาอย่างนั้นหรือ

“เรื่องนี้เรายังสรุปไม่ได้จนกว่าเราจะรู้ความจริง เอาเป็นว่าภารกิจครั้งนี้ผมอยากให้ทุกคนจับตาดูทั้ง

ริชาร์ด กวิน นายมงคล เอาไว้อย่าให้คลาดสายตา เราต้องรู้ให้ได้ว่าพวกมันมารวมตัวกันในงานนี้เพื่ออะไรกันแน่” นฤเบศสรุป

เช่นเดียวกัน ฝ่ายริชาร์ดก็จับตาการเคลื่อนไหวของทีมเดอะซัน แต่ระหว่างริชาร์ดกับพ่อเลี้ยงต่างก็ระแวงกัน ฝ่ายพ่อเลี้ยงมีมังกรที่เขาเป็นคนแนะนำให้มาทำงานนี้ ส่วนริชาร์ดก็มีมงคลเป็นพวก

พ่อเลี้ยงปรารภกับมังกรว่า ท่าทางริชาร์ดเจ้าเล่ห์จะเล่นตุกติกกับเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“ก็ไม่เห็นจะยากนี่ เราก็หาทางเล่นตุกติกกับมันซะก่อน” มังกรยิ้มเหี้ยม

ส่วนริชาร์ดก็คุยกับมงคลถึงความไม่ไว้ใจมังกรแต่ก็ยังจำเป็นต้องเก็บไว้ใช้งาน มงคลถามว่าเกิดสองคนนั้นสมคบกันหักหลังเราจะทำอย่างไร

“คนที่รู้เรื่องคนอื่นมากเกินไป ไม่เคยมีใครอายุยืนหรอกคุณมงคล รอให้สารวัตรมังกรกับไอ้พ่อเลี้ยงกระ-จอกนั่นช่วยงานเราให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเถอะ แล้วผมจะลองคิดดูว่าควรจะจัดการกับคนรู้มากยังไงดี”

ริชาร์ดยิ้มร้าย

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนที่ 1 วันที่ 24 ส.ค. 56

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนที่ 1 วันที่ 24 ส.ค. 56

ไม่ ทันไร นันทินีโผล่เข้ามาในร้านพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาอวยพร หม่อมสุรีย์ดีใจบอกคุณหญิงนิ่มไม่ต้องช่วยแล้ว เพราะนันทินีนี่แหละที่เหมาะสมและมีความพยายามเป็นเลิศ...หม่อมสุรีย์พยายาม ผลักดันให้นันทินีใกล้ชิดกับลูกชาย นันทินีก็ลูกเล่นแพรวพราวแกล้งสะดุดขาตัวเองล้มนั่งตักจันทรภานุ ช่างภาพรีบเก็บภาพทันที ชายหนุ่มเอือมหาทางเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ

หม่อมสุรีย์ยิ้มแตะมือกับนันทินีอย่างพอใจ “หนูนันทำดีมากจ้ะ ถ้ายังไงแม่จะหาโอกาสให้หนูนันได้ไปดินเนอร์กับชายจันทร์สองต่อสองดีไหม”


“เก๋กู๊ดเลยค่ะ หม่อมแม่ขา”
หม่อมสุรีย์หาโอกาสคุยกับจันทรภานุ ให้พานันทินีไปทานข้าวเย็นนี้ เขาขอเหตุผลหม่อมสุรีย์อ่อนใจจึงบอกว่าเหตุผลคือความต้องการของตน เพราะเห็นว่าเธอเหมาะสมกับเขา

“แต่แม่ครับ ผมไม่ได้ชอบคุณนัน”

“ตอนแม่แต่งงานกับท่านพ่อ แม่ก็ไม่ได้ชอบท่านพ่อของลูกเหมือนกัน แต่พออยู่ๆกันไปแม่ก็รักท่านพ่อของลูกสุดหัวใจ ทำตามที่แม่สั่ง อย่าขัดใจแม่” หม่อมสุรีย์พูดจบเดินจากไป

จันทรภานุเครียด คุณหญิงนิ่มเข้ามาสะกิดไหล่ ถามเจอศึกหนักหรือ เขารีบขอให้เธอช่วย

ในวันเดียวกัน ประกายดาวทำบุญวันเกิดร่วมกับครอบครัวจิตสุภางค์ที่ลูกชายคนเล็กอายุครบหนึ่งเดือนและมิลินทร์ พากันมาเลี้ยงอาหารที่มูลนิธิเด็ก จู่ๆประกาย-ดาวก็มีความคิดว่า

“เด็กพวกนี้เกิดจากความไม่มีวุฒิภาวะของพ่อแม่ นึกอยากแต่จะมีความสุขแต่ไม่นึกถึงผลที่จะตามมา ถึงเด็กพวกนี้จะเจริญเติบโตในสังคมเหมือนเด็กทั่วไป แต่สิ่งที่แตกต่างคือจิตใจความคิดความรู้สึก นั่นเพราะไม่มีพ่อแม่เป็นต้นแบบในการหล่อหลอมอบรมสั่งสอน และปัญหาเด็กกำพร้าก็มีมากขึ้นในสังคมไทย ฉันก็เลยคิดว่าจะรับเด็กมาเลี้ยง พวกเธอเห็นว่าดีไหม”

ทั้งจิตสุภางค์และมิลินทร์ค้าน แจงเหตุผลมากมายที่จะตามมา แต่ประกายดาวอยากมีลูกเป็นเพื่อนแก้เหงาโดยไม่อยากมีพ่อ เธอมั่นใจว่าจะเป็นแม่ที่ดีได้ ประกายดาวมองเฮียเชาที่ดูแลลูกๆที่กำลังซนแต่ก็เอาไม่อยู่ จนจิตสุภางค์ต้องไปจัดการเอง เธอกระซิบมิลินทร์

“แกเห็นไหมลินทร์ มีลูกกวนตัวคนเดียว ดีกว่ามีผัวกวนใจอีกคน”

มิลินทร์ถอนใจกับความคิดของเพื่อน...ระหว่างที่ประกายดาวไปเจรจากับเจ้าหน้าที่เรื่องอุปการะเด็ก มีรถยนต์แล่นเข้ามาจอด คนที่ลงจากรถคือศิวะ อรอุมาและรติรส จิตสุภางค์สะกิดมิลินทร์ ศิวะเห็นเพื่อนทั้งสองก็รู้ว่าประกายดาวอยู่ที่นี่ จึงทำทีไปเข้าห้องน้ำแล้วแอบไปดักเจอ

ประกายดาวเห็นศิวะมาก็อึดอัดใจเดินหนี แต่เขาคว้ามือเธอขอร้อง “ดาว ถึงเราจะแต่งงานแล้ว แต่เราก็ยังรักดาวนะ รักดาวเสมอ”

อรอุมาตามมาเจอตวาดเสียงลั่น “ทำอะไรกัน...”

ศิวะรีบปล่อยมือประกายดาว ไม่กล้าแก้ตัวช่วยเธอ อรอุมาแว้ดใส่ประกายดาวชุดใหญ่

“หน้าตาก็ดี ไม่น่ามาลักกินขโมยกินแบบนี้...มิน่า วันนี้คุณถึงได้อยากมาที่นี่นัก เพราะคุณจะมาหามันใช่ไหม...นี่คงนัดมาล่ะสิ”

“มันจะน้ำเน่าไปหน่อยมั้ง ฉันเนี่ยนะนัดตานี่มา ประสาท” ประกายดาวฉุน

รติรสยุอรอุมาว่าประกายดาวด่า อรอุมาแหวใส่รู้ไหมว่าเธอเป็นใคร ประกายดาวโต้แล้วเธอรู้ไหมว่าตนเป็นใคร อรอุมาปรี๊ดแตก กล้าดีอย่างไรมาย้อน

ประกายดาวฉุน เท้าเอวเดินเข้าใส่ “แล้วแกกล้าดียังไงมากล่าวหาฉันอย่างนี้ อะไรที่ฉันทิ้งไปแล้ว ฉันไม่มีทางจะเก็บมันมาใช้อีกหรอก อย่ามาทำเป็นน้ำเน่าเป็นนางอิจฉาที่นี่...ที่นี่บริสุทธิ์เกินกว่าจะต้องมาแปดเปื้อนเพราะความคิดอกุศลของแก”

ทั้งอรอุมาและรติรสถอยหนีชนกำแพง ศิวะหงอไม่กล้าสบตาใคร พอดีเจ้าหน้าที่เดินมาถามว่ามีอะไรกันหรือเปล่า ประกายดาวจึงหันไปบอกเจ้าหน้าที่ว่าจะกลับมาคุยด้วยวันหลัง แล้วหันไปบอกศิวะ ดูแลภรรยาอย่าให้มาแสดงกิริยาต่ำๆอย่างนี้อีก ว่าแล้วก็ย้ำ ลาก่อน... ลาขาด

“เธอจะยอมให้มันด่าเธอฝ่ายเดียวไม่ได้นะอร” รติรสอดยุยงเพื่อนไม่ได้

อรอุมาฮึด เดินตามประกายดาวออกไป ร้องท้าด่ากันแล้วจะไปง่ายๆอย่างนี้หรือ ประกายดาวชะงักหันกลับมาถาม “แล้วจะเอาไง ตบกันเลยไหม”

ประกายดาวถลกแขนเสื้อรอ อรอุมาดันรติรสเข้าไป แต่เธอขืนตัวไว้ไม่กล้า มิลินทร์กับจิตสุภางค์ตามมายืนขนาบข้างเพื่อน เตรียมรับมือ ศิวะขยาดดึงอรอุมากลับ รติรสรีบวิ่งตาม

ooooooo

เย็นวันนั้น จันทรภานุจำต้องนั่งรถนันทินีไปดินเนอร์ตามคำสั่งหม่อมสุรีย์ นันทินีเปิดเพลงแนวยั่วยวน แถมจับต้นขาเขาหมับ คุณชายสะดุ้งยกแขนกระแทกหน้าเธอเฉี่ยวๆ

“ขอโทษครับ ผมเป็นโรคบ้าจี้น่ะครับ ใครแตะตัวไม่ได้เด็ดขาด แขนขามันจะชักกระตุก”

นันทินีหน้าเหวอ พลันมือถือดังขึ้น จันทรภานุรับสายแอบอมยิ้มแล้วเก๊กหน้าขรึม

“ว่าไงนะหญิงนิ่ม ตอนนี้น้องหญิงอยู่ไหน พี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้”

จันทรภานุหันมาบอกนันทินีว่าไปดินเนอร์ด้วยไม่ได้แล้ว ต้องไปดูแลคุณหญิงนิ่ม เพราะเธอเกิดอุบัติเหตุ ขับรถชนคนตายสมองไหลอยู่กลางถนน นันทินีแขยงจะไปส่งก็ไม่กล้า จึงจอดรถให้เขาลง ชายหนุ่มอมยิ้มรีบโบกแท็กซี่กลับไปที่ร้านของคุณนิ่ม...พอคุณหญิงนิ่มรู้ว่าคุณชายสร้างเรื่องขนาดนั้นก็เกรงจะถึงหูหม่อมสุรีย์แล้วตนจะกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ

“พี่ไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน”

“อย่าเอาตัวรอดคนเดียวนะคะ หญิงช่วยพี่ชายแล้วคราวนี้ก็ถึงตาพี่ชายต้องช่วยหญิงบ้าง”

“มีทวงบุญคุณกันด้วย”

“แน่นอนค่ะ พี่ชายต้องไปคาราโอเกะกับหญิง”

“เฮ้อ...นี่พี่หนีเสืออย่างหม่อมแม่ มาปะจระเข้อย่างเราใช่ไหม”

คุณหญิงนิ่มไม่ตอบ แอบอมยิ้มมีเลศนัย...ให้เผอิญที่ประกายดาว มิลินทร์และครอบครัวจิตสุภางค์ ยกโขยงมาเที่ยวคาราโอเกะแห่งนี้เช่นกัน สามสาวร้องเพลงด้วยกันอย่างเมามัน ห้องข้างๆที่กลุ่มคุณหญิงนิ่มร้องเพลงเฮฮากับเพื่อนๆ จันทรภานุนั่งเซ็งเพราะรู้ว่าเธอชวนมาหวังจับคู่กับเพื่อนของเธอ...พอดีประกายดาวมาเข้าห้องน้ำล้างหน้า แต่กระดาษทิชชูหมด จึงเดินออกมาโดยใช้แขนเสื้อเช็ดหน้า เธอชนเข้ากับคนๆหนึ่ง เขาโอบเอวไม่ให้เธอล้ม พอทั้งสองเห็นหน้ากันต้องตะลึง ต่างร้องพร้อมกัน

“นาย!...คุณ!...”

จันทรภานุปล่อยตัวประกายดาวล้มก้นจ้ำเบ้า เธอร้องลั่นปล่อยทำไม ชายหนุ่มยิ้มเยาะ

“ถือว่าหายกัน เรื่องที่คุณสาดกาแฟใส่ผมวันก่อน”

“ผ่านมาตั้งนาน ยังจำได้อีก เจ้าคิดเจ้าแค้นนะเนี่ย ตุ๊ดป่ะ...”

“นี่...มันจะมากไปแล้วนะ”

“มันไม่มากไปหรอก ถ้าเทียบกับคนที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษอย่างคุณ”

“ผมไม่เป็นสุภาพบุรุษตรงไหน”

“ไร้มารยาท พูดจาไม่ดี ไม่เคารพกฎจราจร เอาเป็นว่าก็ทุกตรงนั่นแหละ” ประกายดาวมองเขาเหยียดๆหัวจรดเท้า

มิลินทร์กับจิตสุภางค์ตามออกมาเห็นทั้งสองกำลังเถียงกันยกใหญ่ ก็ตกใจ จิตสุภางค์ดึงประกายดาวออกมา มิลินทร์รีบขอโทษขอโพย แล้วถามจำตนได้ไหม ตนเป็นนักข่าวหน้าสังคมหนังสือพิมพ์ไทยไลน์ ที่เคยสัมภาษณ์เขา จันทรภานุนึกออกจึงแกล้งจิกกัดประกายดาว

“ไม่เป็นไร ผมไม่ถือ เพราะนี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน แต่ถ้าให้ดีก็หัดสั่งสอนเพื่อนคุณด้วยว่า ผู้หญิงที่ดีเขาทำตัวกันยังไง”

ประกายดาวตาโพลงอ้าปากจะด่า จิตสุภางค์รีบปิดปากลากตัวกลับเข้าห้อง มิลินทร์บอกให้รู้ว่า คนที่ทะเลาะด้วยคือ ม.ร.ว.จันทรภานุ นพรัตน์ ดังมากทำไมถึงไม่รู้จัก เขาเป็นหนุ่มสังคมที่กำลังเป็นที่จับตามองของสาวๆหลายคน เป็นเจ้าของห้างมีเดียกรุ๊ป และโรงแรมอีกหลายแห่งในประเทศไทย ประกายดาวแขวะชื่อเหมือนผู้หญิง จิตสุภางค์ซัก อายุเท่าไหร่

“35 แต่ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน เขาว่ากันว่า คุณชายไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหน ฉายาของคุณชายคือ...เดทเดียวดับ...ถ้าผู้หญิงคนไหนได้ออกเดทกับคุณชายแล้วล่ะก็ คุณชายจะบอกเลิกทันที” มิลินทร์เล่าถึงสาวหลายๆคนที่คุณชายบอกเลิกหลังจากดินเนอร์ด้วย
 

อ่านละครเรื่อง สาปพระเพ็ง วันที่ 24 ส.ค. 56

อ่านละครเรื่อง สาปพระเพ็ง วันที่ 24 ส.ค. 56

มรัน มาร้องไห้ ติสสาจูบซับน้ำตามรันมาที่สะอื้น โอบกอดมรันมาไว้แน่น...ด้วยความรัก สองร่างกอดเกี่ยวล้มลงนอนท่ามกลางธรรมชาติที่เป็นใจ...เช้าวันใหม่ เจ้านางอินยาเห็นมรันมาที่แนบชิดติสสา ก็แทบจะพุ่งเข้าไปฆ่ามรันมาด้วยความโกรธถึงขีดสุด

“กลับมาทำไม ในเมื่อเจ้าไม่มีดอกจันทน์กะพ้อมาเช่นที่ข้าสั่ง”
เจ้านางอินยาตวาดถามอย่างชิงชังเห็นมรันมากุมมือติสสาไว้แน่น


“ข้าพามรันมากลับมา เพื่อบอกเจ้านาง...มรันมาจะเป็นเจ้าสาวของข้า” ติสสาบอก

“ไม่ได้ ปล่อยมือจากนางทาสของข้า ข้าไม่อนุญาต”

“ข้าไม่ได้มาขออนุญาต คนที่จะอนุญาตได้คือเจ้าปรันมา”

“มรันมาเป็นทาสของข้า” เจ้านางอินยาไม่ยอม

“แต่ท่านก็เป็นข้าของเจ้าศรีพิสยาเหมือนกัน...เราทุกคนคือข้ารองบาทของเจ้าศรีพิสยาเจ้าเหนือชีวิตที่ไม่เคยทำร้ายคนของตนเองไม่เคยเลยสักครั้งที่จะโหดเหี้ยมผิดมนุษย์กับทุกคนที่อยู่
ในความดูแล...ไม่เคยเลยที่คิดจะเอาชีวิตคนในปกครองข้ามาเพื่อบอกท่าน เจ้านางอินยา...ข้า
ติสสา จะทำทุกวิถีทางที่จะพามรันมาเจ้าสาวของข้าออกไปจากตำหนักท่านให้ได้”

ติสสาจ้องอย่างไม่กลัวเกรง เจ้านางอินยาตัวสั่น ความโกรธความเกลียดมรันมาพุ่งขึ้นรุนแรงในดวงตา

“โอหัง ทหารรับใช้เยี่ยงเจ้า อย่าบังอาจเอ่ยวาจาโอหังสามหาว”

“ข้าจะทำทุกวิถีทางที่จะได้ดูแลมรันมา เจ้าสาวของข้า ให้พ้นจากมนุษย์ทุกคนที่มีจิตใจเหี้ยมโหด หยาบช้า ไร้ความปรานี”

ติสสาพูดย้ำ กุมมือมรันมาแน่น ประกาศต่อหน้าเจ้านางอินยา ...เจ้านางอินยาตัวสั่นเทาด้วยความแค้นและริษยามรันมา จึงระบายความโกรธแค้นด้วยการเฆี่ยนตีนางข้าหลวงใหม่ เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังไปทั้งตำหนัก

เวลาเดียวกันที่เมืองปุระอมร สุเลวินโหรากำลังเพ่งลงลึกไปในฌาณ โดยองค์นรสิงห์มองจ้อง รอคอยคำตอบอยู่

“ข้าเห็นความรัก .. ความรักอันเกี่ยวร้อยหัวใจหาญกล้า หัวใจที่บูชาแผ่นดิน”

องค์นรสิงห์มองด้วยความสงสัย

“ความรักจะทำให้เราชนะเมืองศรีพิสยาได้ยังไง” องค์นรสิงห์ถามอย่างสงสัย

“ความรักบริสุทธิ์ ไม่อาจแบ่งแยก ไม่อาจกีดกัน” สุเลวินโหราบอก

“บอกสิ สุเลวิน ความรักของใครที่คุ้มครองศรีพิสยา” องค์นรสิงห์คาดคั้นด้วยความอยากรู้
สุเลวินโหรายิ้มแย้มพอใจในสิ่งที่ตัวเองเห็น

“ความริษยา...ความริษยาเป็นอารมณ์เดียวที่รุนแรง พอที่จะทำลายศรีพิสยาให้แหลกสลาย”

“ความริษยาของใคร”

“หญิงแห่งศรีพิสยา ริษยาของหญิงสองนางจะทำลายศรีพิสยา”

นรสิงห์ยินดีในคำตอบ เสียงหัวเราะดังก้อง ฟังเหมือนเสียงคำรามแห่งราชสีห์

เมื่อจากตำหนักเจ้านางอินยาและอยู่ตามลำพัง ติสสามองดวงหน้ามรันมาบ่งบอกถึงความรักและเป็นห่วง

“อดทนนะน้องน้อย พี่ชายจะรีบมารับน้องน้อย”

“น้องน้อยจะอดทน”

“ใจพี่ชายอยากจะพาน้องน้อยไปเสียเดี๋ยวนี้ ไม่อยากให้อยู่ในตำหนักเจ้านางอินยาต่อเลยสักนาที...แต่พี่ชายต้องทำให้ถูกต้อง เจ้านางอินยาจะตามไปทำร้ายน้องน้อยของพี่ชายไม่ได้อีก...หัวใจพี่ชายเกิดมาเพื่อเป็นของน้องน้อย...ไม่ว่าอีกนานแค่ไหน...ความรักของพี่ชายจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” ติสสาดึงร่างมรันมามากอด และประทับจูบบนหน้าผากมรันมา

ปัจจุบัน รัดเกล้าสะดุ้งเฮือกขึ้นมา ไผ่ พัทธ์ วิกกี้ที่รุมล้อมอยู่ พากันแปลกใจ

“ยายเกล้า”

“น้องรัดเกล้า”

วิกกี้หันขวับ จ้องไผ่ที่กำลังจะเข้ามาใกล้น้อง

“หยุด...หยุดมือของผู้กองไว้ตรงนั้น เอามันกลับไปซุกกระเป๋า อย่าคิดจะแตะน้องชั้น”

วิกกี้หันมาประคองรัดเกล้า พัทธ์บอกให้พารัดเกล้าไปเช็กที่โรงพยาบาลจะดีกว่า

“ดีเหมือนกันค่ะ ไปรถผู้กองได้มั้ยคะ” วิกกี้ถามความเห็นพัทธ์

“ครับ ไปเลยครับ”

“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร เกล้าอยากกลับบ้าน”

“กลับไม่ได้นะ รัดเกล้า เธอเป็นลมบ่อยไปแล้ว”

“เอ๊ะ ผู้กองไผ่ มารู้ยังไงว่าน้องฉันเป็นลมบ่อย”

ไผ่กับพัทธ์สบตากันอย่างอึดอัด

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...เกล้าคงโรคกระเพาะกำเริบ” รัดเกล้ารีบตอบให้ทุกอย่างผ่านไป

พัทธ์กับไผ่มองเป็นห่วงรัดเกล้า แต่สายตาวิกกี้ไม่เชื่อ...และเมื่ออยู่ตามลำพัง วิกกี้ก็ซักไซ้รัดเกล้าทันที

“แกโกหกเรื่องโรคกระเพาะ เห็นว่าฉันกินหญ้าแทนข้าวตั้งแต่เมื่อไหร่”

“เกล้าไม่อยากพูดต่อหน้าคนอื่น ...เกล้าเห็น...เห็นภาพอดีตอีกแล้วค่ะ...พี่วิกกี้” รัดเกล้าตัดสินใจบอกพี่สาว

“ฉันจะพาแกไปเช็กประสาท ตรวจเอ็ม อาร์ไอ” วิกกี้ไม่เชื่อ

“เกล้าไม่ได้ป่วยนะคะ ไม่ได้ป่วย ไม่ได้บ้า เกล้าเห็นจริง ๆ ค่ะ เกล้าเห็นตัวเองด้วย ปราสาทหิน นักรบ เมืองงามในอดีต”

“งั้นคราวหน้าแกต้องพาชั้นไปด้วย ชั้นอยากช้อปแบรนด์เนมในอดีต”

“เกล้าพาใครไปไม่ได้...”

“เอ๊ะ...แล้วแกจะให้ฉันเชื่อได้ยังไง ไหนแกทะลุมิติไปยังไง...บอกชั้นสิ”

“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากค่ะ...เวลา ...เวลา...”

รัดเกล้ามองเกรง ๆ วิกกี้ที่จ้อง อยากรู้เต็มที่

“เวลาที่ผู้กองไผ่โดนตัวเกล้า”

“อะไรนะ นี่ไอ้ผู้กองไผ่...มันลวนลามแก”

เวลาเดียวกัน พัทธ์มองไผ่กุมขมับ เดินไปเดินมา

“โอ๊ย...ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ลวนลาม แต่ทุกครั้งที่ร่างกายเราสัมผัสกัน เค้าก็บอกว่าเจ็บ...แล้วก็วูบ”

“หรือว่าสมองกระทบกระเทือน มีเลือดคั่งตั้งแต่รถชน”

“เลือดคั่งหรือเปล่า ไม่รู้ รู้แต่พอฉันขับรถชนเค้า ฟื้นขึ้นมา รัดเกล้าก็ฝังใจ... จิตใต้สำนึกมันสั่งให้เค้าเกลียดฉัน”

“เดี๋ยว ๆ ไอ้ไผ่...แกเป็นตำรวจ ไม่ใช่นักจิตวิทยา หรือ หมอ อย่าเพิ่งสรุปมั่ว ๆ”

“ไม่มั่ว นี่แหละข้อสรุป รัดเกล้าเกลียดฉัน”

“พี่สาวเค้าก็เกลียดแก”พัทธ์ยิ้มขำ ๆ

“เออ...รู้แล้ว เจ๊วิกกี้เกลียดฉันน่ะดีแล้ว ฉันถือว่าปลอดภัยกับชีวิตโสดของตัวเอง แต่รัดเกล้า...ฉันไม่อยากให้เค้าเป็นแบบนี้ ฉันเป็นต้นเหตุให้เค้ามีอาการประหลาด ๆ ฉันต้องรับผิดชอบ”

ไผ่สีหน้าห่วงใยรัดเกล้ามาก
 

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

1 ความคิดเห็น

ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556

3 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 1/30 ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 2/30 ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 3/30 ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 4/30 ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 5/30 ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 6/30 ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 7/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 8/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 9/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 10/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 11/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 12/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 13/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 14/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 15/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 16/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 17/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 18/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 19/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 20/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 21/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 22/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 23/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 24/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 25/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 26/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 27/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 28/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 29/30
ดูเรื่องเล่าเช้านี้ย้อนหลัง วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 30/30

ดูครัวแล้วแต่คริตย้อนหลัง (แซลมอนม้วนริคอทต้าชีส)วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ช่วงที่ 1/1

ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี-วันศุกร์ เวลา 08.30 น. ทางช่อง3 พิธีกร : ชาคริต แย้มนาม

ดูฮอร์โมน วัยว้าวุ่น (Hormones)ย้อนหลัง (ตอนที่ 13) วันที่ 17 สิงหาคม 2556

ดูฮอร์โมนย้อนหลัง ออกอากาศ ทางช่อง GMM ONE ทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น. นักแสดง : พีช พชร จิราธิวัฒน์, แพทตี้ อังศุมาลิน, ปันปัน สุทัตตา,กันต์ ,ไมเคิล, มาร์ช , ฝน, ต่อ, เก้า