วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครปิ่นอนงค์ ตอน 14 วันที่ 8 ก.ค. 55

 ที่ศาลาอเนกประสงค์ในเวลาต่อมา เหล่าคนงานชายหญิง ราว 15 คน นั่งมองครองสุข รอฟัง เปี๊ยก หวาน และน้อย อยู่อีกมุม จิ๋วแอบซุ่มดูเหตุการณ์อยู่อีกฟาก
      
       “ก็อย่างที่พวกเรารู้ ปิ่นอนงค์เป็นนายหญิงของไร่ ตอนนี้ป้าอุ่น แม่ของปิ่นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของชั้น ก็ตายไปแล้ว คุณใหญ่ก็กลายเป็นฆาตกรหนีคุกหนีตะราง ตานะหลานชายของชั้นกับ” ครองสุขเริ่มแผนส่งข่าวให้ใหญ่
       คนงานอึ้ง สบตากันไปมา
       “ปิ่นก็เคยมีใจให้กันมาตั้งแต่รุ่นๆ ชั้นเลยจะให้ปิ่นเป็นเมียของตานะอีกคน” ใหญ่สุขปิดจ๊อบ
       หวานกะน้อยร้องพร้อมกัน “เป็นเมีย”
       ครองสุขยิ้มระรื่น “ถูก จะได้ช่วยกันดูแลบริหารไร่ เงินทองไม่ไหลไปไหนไงล่ะ”
       เปี๊ยก หวาน และน้อย สบตากันอึ้งๆ
       “ตอนนี้ปิ่นพักผ่อนอยู่กระท่อมท้ายไร่ ห้ามใครไปยุ่มย่ามรบกวนเด็ดขาด” ครองสุขปรายตามองพวกหวานนิดหนึ่ง
       จิ๋วปิดปากตกใจห่วงอรสอางค์ขึ้นมา
       ครองสุขเดินออกจากศาลา แอบยิ้มสะใจ
      
       อรสอางค์นั่งซึมอยู่ในห้อง จิ๋วรีบเข้าห้องมารายงาน
       “คุณหนูรู้เรื่องที่คุณนายจะให้ปิ่นมาเป็นเมียน้อยของคุณนะรึยังคะ”
       อรยิ้มขมขื่น ตอบด้วยเสียงห้วนๆ “รู้แล้ว”
       จิ๋วตกใจตาค้าง “อ้าว ... แล้วคุณหนูจะยอมให้เป็นอย่างนั้นเหรอคะ คุณหนูทนได้ยังไง”
       อรสอางค์ระเบิดอารมณ์ “ก็เพราะพี่จิ๋วขึ้นคานน่ะสิ ถึงไม่รู้ว่าทำไมอรถึงทนได้ ทำไมอรถึงต้องยอม ผู้หญิงที่ถูกสามีนอกใจ ถ้าหักใจเลิกกับเขาได้คงไม่มีเมียหลวงกันเต็มบ้านเต็มเมืองหรอก”
       จิ๋วสงสารแตะมืออรสอางค์ “ถึงคุณนายจะจัดปิ่นใส่พานให้คุณนะ ปิ่นคงไม่ยอมง่ายๆหรอกค่ะ เพราะยังไม่ได้หย่าขาดจากคุณใหญ่”
       อรสอางค์พูดเหยียดหยัน “กับไอ้จอม มันยังไปอยู่กินด้วยกันมาแล้ว เพิ่มคุณนะเป็นผัวอีกคน มันจะแคร์ทำไมกะอีแค่ใบหย่า”
       อรสอางค์ลุกเดินออกจากห้องไป จิ๋วมองตาม ครุ่นคิด
      
       เปี๊ยกยืนลับๆ ล่อๆ ที่ข้างเรือนคนงาน กดโทรศัพท์ส่งข้อความให้มือถือของปานเทพ ที่ใหญ่ให้เบอร์ไว้
       เปี๊ยกส่งข้อความเสร็จ ยิ้มพอใจกับจอโทรศัพท์
       หวานตบนำมาก่อน เปี๊ยกกระเด็นติดข้างฝาเรือน หน้าซีด เปี๊ยกเอาโทรศัพท์ซุกข้างหลัง
       “สงสัยมานานแล้ว ทำไมขยันออกกำลังกาย เพาะกล้ามเป็นมัดๆ เอ็งมีกิ๊กซ่อนไว้ใช่มั้ย ไอ้เปี๊ยก”
       เปี๊ยกส่ายหน้า หวานไม่เชื่อยิงเข่าเข้าท้อง เปี๊ยกเอามือกุมท้องกำโทรศัพท์มาด้วย
       “เอามานี่”
       หวานแกะโทรศัพท์จากมือเปี๊ยก กด อ่านข้อความที่เพิ่งส่งหวานมองเปี๊ยก พลางอ่านข้อความ
       “คุณใหญ่ครับ คุณนายจะให้ปิ่นมาเป็นเมียคุณนะ...เอ็งจะไปบอกคุณใหญ่ทำไม มันกงการอะไรของเอ็ง”
       เปี๊ยกหัวหด “เดี๋ยวได้เป็นเรื่อง”
      
       ใหญ่กะปานเทพ เพ็ญและปลอด นั่งกินข้าวด้วยกัน มีเสียงsmsของมือถือปานเทพดังขึ้น
       ปานเทพกดดู “เบอร์ใครวะ” อ่านเสียงดังๆ “คุณใหญ่ครับ คุณนายจะให้ปิ่นมาเป็นเมียคุณนะ”
       ทุกคนเหลียวมองปานเทพ ขณะที่ปานเทพมองใหญ่ “ใครส่งเข้ามา แล้วทำไมส่งเข้ามาในมือถือฉัน”
       ใหญ่รีบบอก “คือ ฉันให้เบอร์แกกับไอ้เปี๊ยกไว้นานแล้ว สั่งมันว่าถ้ามีเรื่องด่วน ติดต่อฉันไม่ได้ก็ติดต่อแก ไหนดูซิ”
       ใหญ่เอามาดูข้อความ ปลอดรีบบอก “อย่าไปเชื่อ อาจเป็นแผนล่อคุณใหญ่ออกไปติดกับเหมือนครั้งที่แล้ว”
       ใหญ่กังวลใจมาก แต่ทำทีเป็นคล้อยตาม “แผนตื้นๆ อย่างนี้ ผมไม่หลงกลซ้ำสองหรอกครับ อีกอย่างใครจะเป็นเมียใคร มันก็ไม่ใช่เรื่องของผม”
       ปลอดโล่งอก ปานเทพชอบใจตบบ่าใหญ่ “มันต้องอย่างนี้สิไอ้เกลอ ใจแข็งเข้าไว้”
       “กินกันเถอะครับ หิวแล้ว”
      
       ใหญ่ตักข้าวกิน แต่สายตาชำเลืองมองปลอด กำลังคิดจะหาทางหนีไปช่วยเมียรัก
 ครองสุขคุยโทรศัพท์กับขาไพ่ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส หัวเราะร่วนอย่างมีความสุข
      
       “ไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะคุณพี่ ไปทัวร์ยุโรปมา ตอนนี้กลับมาแล้ว ขาดหนึ่งขาอยู่พอดีหรือคะ ว่างค่ะว่าง”
       ครองสุขหันกลับมาจะเดินไป เจอจอมหน้าดุดันโผล่เข้ามาตรงหน้า ครองสุขตกใจ
       “คุณนายหลอกผม เอาปิ่นมาขังเพื่อให้เป็นเมียน้อยคุณนะ ผมจะพาปิ่นหนี” จอมรู้เรื่องแล้ว
       ครองสุขตั้งสติจ้องตาจอมแล้วยิ้มเยาะ “ก็เอาสิ ลองดู ปิ่นมันจะไปกับแกมั้ย แกเคยเอาชนะไอ้ใหญ่ได้สักครั้งรึเปล่า”
       จอมเครียด “ผมรักปิ่น ผมจะไม่ยอมเสียปิ่นให้ใครอีก”
       “เห็นมั้ยล่ะ ขนาดแกยังเชื่อว่าชั้นจะให้นังปิ่นเป็นเมียตานะ แล้วไอ้ใหญ่มันจะไม่เชื่อเหรอ เตรียมรับมือไอ้ใหญ่ให้ดีเถอะ มันมาแน่”
      
       เช้าวันต่อมา ทรรศนะนั่งเครียด กุมหัวอยู่ที่โต๊ะ ทัศนีย์เปิดประตูร่าเริงเข้ามา
       “ยินดีด้วย ที่จะได้ปิ่นมาเป็นเมียอีกคน เอ๊ะ... แล้วยัยอรไฮโซพี่นะจะเอาไปไว้ที่ไหน”
       ทัศนีย์นั่งบนโต๊ะกอดอก ทรรศนะไล่ทันที “จะไปไหนก็ไปๆ พี่ไม่มีอารมณ์จะคุยด้วย”
       “ต๊าย ... นิสัยพี่นะเนี่ยเหมือนคุณน้าขึ้นทุกวันนะคะ”
       “เหมือนยังไง”
       “อ้าว ... ก็คุณน้ามีกิ๊กหลายคน พี่นะก็มีหลายเมียไง” ทัศนีย์หัวเราะคิกคัก
       “มากไปแล้ว ทำไมพูดจาลามปามถึงคุณน้าอย่างนี้ คุณน้าเป็น...”
       ทัศนีย์สวนคำออกมา “อย่าพูดคำนั้นนะพี่นะ เขาไม่ได้อยากเป็น จะพูดถึงทำไม ลืมได้ก็ลืมไปเลย”
      
       สองพี่น้องนึกถึงเหตุการณ์ที่ครองสุขบอกให้เรียกตัวเองว่าน้า ในวันที่ตัดสินใจมาเป็นเมียไพศาล
       ทัศนีย์ดึงตัวเองกลับมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด
       ทรรศนะพยายามอธิบาย “คุณน้าเขามีเหตุผลนะ”
       ทัศนีย์ลุกยืน รีบกลบเกลื่อนความรู้สึก
       “เปล่า อย่าคิดว่านีเสียใจ เทียบกับการที่คุณใหญ่หายตัวไปนีเสียใจมากกว่า พี่นะรู้หรือเปล่า ว่าคุณใหญ่อยู่ไหน”
       ทรรศนะโกรธ “ถามทำไม”
       ทัศนีย์กวนประสาท “คิดถึง อยากเจอ ได้หรือเปล่า”
       “พี่ขอเตือนอย่าไปยุ่งกับไอ้ใหญ่ มันไม่ธรรมดา”
       “พี่นะก็ไม่ควรยุ่งกับนังปิ่น นังนั่นมันมักมาก ท้องกับไอ้จอมแล้วยังไม่ยอมปล่อยคุณใหญ่ไปอีก”
       ทรรศนะตกใจ “ปิ่นท้องหรือ”
      
       สมุน 2 คน ยืนเฝ้าที่หน้ากระท่อมกันคนละจุด ทรรศนะเดินมา สมุนก้มหัวแสดงความเคารพ
       ทรรศนะเดินไปหยุดมองปิ่นอนงค์ผ่านทางช่องหน้าต่างที่เปิดอ้าอยู่ ในระยะห่างๆ เห็นที่ด้านในกระท่อมเวลาเดียวกัน ปิ่นอนงค์เดินไปเดินมาหันไปเห็นทรรศนะผ่านทางหน้าต่าง รีบวิ่งไปตรงหน้าต่าง
       “คุณนะ มันเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมไม่มาตามนัด แล้วคนพวกนี้จับปิ่นไว้ทำไม”
       ทรรศนะเดินเข้ามาใกล้หน้าต่าง “พี่มีเรื่องอยากถาม ปิ่นท้องกับจอมจริงหรือ” ปิ่นอนงค์ตกใจ อ้ำอึ้ง ทรรศนะเสียใจคิดว่าจริง “ถ้าปิ่นเงียบพี่จะถือเป็นคำตอบว่าใช่ พี่เริ่มสับสนกับปิ่น ปิ่นไม่รักพี่เพราะปิ่นรักคุณใหญ่ แล้วทำไมถึงไปมีลูกกับจอม”
       “ไว้ปิ่นจะอธิบายให้คุณนะฟัง แต่ตอนนี้คุณนะปล่อยปิ่นก่อนได้มั้ย”
       ทรรศนะผิดหวังยังทำใจไม่ได้ มองปิ่นอนงค์นิ่ง “ปิ่นทำให้พี่ผิดหวัง”
       ทรรศนะหันหลังเดินจากไป ปิ่นอนงค์ยืนอึ้ง เดินกลับไปทรุดนั่งบนแคร่อย่างอ่อนแรง จู่ๆ ปิ่นอนงค์ก็คิดถึงแม่ขึ้นมา
       “แม่จ๊ะ ปิ่นรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก มันทรมานจริงๆ ให้แม่อยู่กับปิ่น แล้วด่าปิ่นทุกวัน ยังดีซะกว่า”
      
       ปิ่นอนงค์ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างน่าสงสาร
 ปลอดเดินก้าวเร็วๆ ออกมาหน้าบ้าน ปานเทพกับลูกน้อง 5 คนวิ่งมาอีกทางมาสมทบกับปลอด ปานเทพยืนหอบ
      
       “ไม่เห็นหัวมันเลยพ่อ”
       พงษ์กับลูกน้อง 5 วิ่งมาอีกทิศมาสมทบกับปลอดเช่นกัน
       “มีคนงานเห็นคุณใหญ่เกาะรถของชาวบ้านออกไปตั้งแต่ตีห้าหัวรุ่งแล้วนายหัว”
       ปลอดโกรธมาก “คุณใหญ่ ทำไมถึงดื้ออย่างนี้นะ”
       ปานเทพเองก็ฉุน “ตัดหางปล่อยวัดมันไปเลยดีมั้ยพ่อ ทำมาเป็นเล่นละครตบตาเรา ขี้คร้านก็ยังหลงปิ่นอนงค์ไม่ลืมหูลืมตาเหมือนเดิม”
       “ฉันจะตัดหางแกนี่แหละ ถ้าขืนยังกล้าด่าคุณใหญ่อีก”
       “โหยพ่อ นี่ผมชักสงสัยแล้วนะเนี่ย ว่าพ่อเก็บผมมาจากถังขยะหรือเปล่า”
       ปลอดฮึดฮัดเดินหนีเข้าบ้าน
       “ผมยืนยันได้ว่าไม่ได้เก็บคุณปานจากถังขยะครับ แต่เคยเห็นนายหัวว่า เห็นรถขนเงาะทำตกอยู่ข้างถนน เลยเก็บมาเลี้ยง”
       พงษ์ว่าขำๆ ทุกคนหัวเราะ ปานเทพโวยวายเป็นเด็กๆ “เอ้ารุมกันเข้าไป ใช่สิฉันมันลูกหัวเน่า ไหนจะสำคัญเท่าไอ้ใหญ่”
       ปานเทพเดินจ้ำอ้าวไปอีกทาง ปลอดถอนใจกลุ้มเรื่องใหญ่
      
       ขณะที่หวานกวาดใบไม้อยู่หน้าเรือน เปี๊ยกเดินเข้ามา มองระแวดระวัง กระซิบหวาน หวานตั้งใจฟังเหมือนรู้เรื่องพยักหน้า
       “เอ้อๆ”
       หวานผลักเปี๊ยก “เฮ้ย มีแต่เสียงอื้ออ้าๆ จะฟังกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย ทำท่าประกอบด้วยสิวะ ข้าจะได้แปลออก”
       เปี๊ยกนึกได้ว่าลืมตัว รีบทำท่าทาง หวานตาโต “คุณใหญ่อยากให้ช่วยหรือ”
       สมุนเสี่ยตงหลบดูอยู่หลังต้นไม้แอบดูสองผัวเมียอยู่
      
       ที้เรือนใหญ่เวลานั้น น้อยกะหวาน ถือไม้กวาด ไม้ถูพื้น ถังน้ำวางบนพื้น ยืนสงบเสงี่ยมครองสุขทำทีจะไปข้างนอก
       “ทำความสะอาดห้องใหญ่ดีๆ ชั้นจะให้นังปิ่นกับตานะมาอยู่ด้วยกัน”
       เสี่ยตงเดินออกมาจากห้องครองสุข “นังน้อย ไม่ต้องทำอาหารเผื่อชั้นนะ ชั้นกับเสี่ยจะไปธุระ กลับดึกๆ”
       ครองสุขพยักหน้าให้เสี่ยตงอย่างรู้กัน แล้วพากันเดินออกไป
      
       น้อยกะหวานสบตากัน
ขอขอบคุณจาก manager.co.th   

อ่านละครปิ่นอนงค์ ตอน 13 วันที่ 6 ก.ค. 55

อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 12 วันที่ 4 ก.ค. 55

 

 

   

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น